fbpx

SIAMWELL FineJewelry

5 แนวทางในการเลือกซื้อแหวนหมั้นในปี 2020

งานหนึ่งงานเดียวที่สำคัญที่สุดในชีวิตสาวๆทั้งหลาย คงหนีไม่พ้นงานแต่งงานเป็นแน่ เราขอแสดงความยินดีอย่างยิ่งมาล่วงหน้าสำหรับสาวๆผู้โชคดีด้วยนะคะ และเพื่อเป็นการให้ว่าที่เจ้าสาวทั้งหลายได้เกิดไอเดียในการเลือกซื้อแหวนหมั้น เรามีข้อมูลสนุกๆ และน่าสนใจมานำเสนอค่ะ

     เมื่อว่าที่เจ้าสาวเริ่มตัดสินใจที่จะเลือกซื้อแหวนหมั้นซักวง เพชรกลม (Round Brilliant Cut) ก็ยังคงได้รับความนิยมอันดับแรกๆเสมอ ด้วยเหตุผลง่ายๆที่ใครๆก็ทราบกันดีนั่นคือ “ความคลาสสิก” เพราะเป็นความอมตะในรูปทรงที่เรียบง่าย สบายตา และมีความร่วมสมัย ไม่ว่าจะยุคไหนๆ เพชรกลมก็เป็นพระเอกมาตลอดกาล   นอกจากนั้นความสะอาด (Clarity) และสี (Color) ของเพชรก็เช่นกัน ส่วนมากเรามักคุ้นกับเพชรในกลุ่มสีปกติตั้งแต่น้ำร้อยลงไป(D-Z, normal color range)  แต่ก็ยังมีอัญมณีอื่นๆทีมีสีสันสดใส สวยงามตามธรรมชาติที่กำลังขึ้นธรรมเนียบเป็นว่าที่แหวนหมั้นให้สาวๆทั้งหลายลองพิจารณาเก็บไว้เป็นอีกทางเลือกนึงก็เป็นได้เช่นกันค่ะ แอดมินได้รวบรวม 5 ข้อในการพิจารณาเพชรเผื่ออาจเป็นไกด์ไลน์ให้ทุกท่านติดสินใจ ถ้าพร้อมแล้วตามแอดมินมาเลยค่ะ

  1. Unique Diamond Cuts (เหลี่ยมโดดเด่นเป็นประกาย) หากเจ้าสาวกำลังมองหาเพชรหน้าตาแปลกใหม่ ไม่จำเจซ้ำซากให้สมกับเป็นเจ้าสาวยุคศตวรรษที่21 เราอยากนำเสนอเหลี่ยมเพชรที่นอกเหนือไปจากเพชรกลมค่ะ สาวๆหลายคนคงเคยผ่านตากับเพชรเหลี่ยมแฟนซี(Fancy Cuts)มาบ้างแล้ว แต่อาจไม่เคยลองนำมาประยุกต์ใช้เป็นแหวนหมั้นของตนเอง จริงๆแล้วเรายังมีเหลี่ยมเพชรแบบอื่นอีกไม่ว่าจะเป็นเพชรทรงหยดน้ำ(Pear Brilliant Cut), เพชรทรงไข่(Oval Brilliant Cut), เพชรทรงสามเหลี่ยม(Trilliant Cut) หรือ เพชรทรงเม็ดข้าว(Marquise Brilliant Cut)ก็ดี เพราะไม่ว่าเพชรเหลี่ยมไหนๆ รูปทรงใดๆ เพชรทุกเม็ดต่างก็มีความเลอค่าอยู่ในตัว บวกกับดีไซน์แหวนหมั้นแบบเม็ดเดี่ยว(Solitaire Engagement Ring) อีกทั้งเจ้าสาวจะได้สวมใส่ความงามที่ดูแปลกตาออกไปจากทุกคน ยามเมื่อยกมือขึ้นมาถ่ายรูป เพชรเหลี่ยมแฟนซีเหล่านี้จะเล่นกับแสงไฟและเสริมให้เจ้าสาวดูเจิดจรัสเพิ่มขึ้นอีกแน่นอน เพราะโลกนี้เต็มไปด้วยความเป็นไปได้ค่ะ 
  2. Unusual Colored Gemstones (จินดามณีมากสีสัน) สีต่างๆในอัญมณีแท้(Natural Gemstones)ล้วนเกิดจากสารเคมี(Chemical Components)ในธรรมชาติทั้งสิ้น สารเคมีแต่ละชนิดจะให้สีแตกต่างกัน ทำให้อัญมณีแต่ละชนิด(Species)มีความหลากหลายในสีสันเช่นกันค่ะ สาวๆอย่าพึ่งสงสัยนะคะว่า ถ้าไม่ใช่เพชรแล้ว จะเป็นเจ้าของแหวนหมั้นซักวงไม่ได้  นอกจากเพชรแล้ว ในโลกของเรายังมีพลอย(Colored Gemstones)ที่มีสีสดสวย และแจ่มจรัสไม่น้อยไปกว่าเพชรเลยค่ะ พลอยมีทั้งเนื้อแข็งและเนื้ออ่อน(Precious Gemstones) มีทั้งหายากและหาง่าย(Rarity) แต่จุดขายหรือจุดโดดเด่นที่สุด คงหนีไม่พ้นสี(Hue)ของพลอยค่ะ  ในอุตสาหกรรมเครื่องประดับและอัญมณี ดีไซเนอร์ต่างพยายามนำความหลากหลายของชนิดพลอย และสีสันต่างๆของพลอยมารังสรรค์ผลงาน เพื่อให้เครื่องประดับเกิดความแตกต่างและเฉิดฉายที่สุดสำหรับผู้สวมใส่แต่ละคน  ตัวอย่างอัญมณีที่นำมาใช้เป็นแหวนหมั้น เช่น พลอยตระกูลโครันดัม(Corundum) ไม่ว่าจะเป็นทับทิม(Ruby) หรือ ไพลิน(Sapphire)ก็ดี หรือเจ้าสาวท่านใดปรารถนาความแปลกใหม่ ลองพิจารณาพลอยตระกูลทัวร์มาลิน(Tourmaline), โทพาซ(Topaz) หรือ ควอทซ์(Quartz) ก็ได้ รับรองได้เลยค่ะว่าแหวนหมั้นสีสวยของสาวๆจะตัดกับชุดเจ้าสาวสีขาวได้อย่างดิบดีเลยค่ะ
  3. Salt and Pepper Diamonds (เซาท์แอนด์เพพเพอร์ไดมอนด์)   มลทิน(Inclusions)หรือตำหนิในธรรมชาติของเพชร เกิดขึ้นระหว่างการสร้างตัว(Formation)ของผลึกเพชร(Rough)แต่ละผลึก ไม่ว่าจะเป็นรอยแตก(Feathers), ตำหนิผลึก(Crystals), กลุ่มฝุ่น(Clouds) และรอยเข็ม(Needles) เป็นต้น มลทินเหล่านี้จะถูกนำมาจัดกลุ่มความสะอาด(Clarity)ของเพชร  จึงเกิดเป็นระดับความสะอาดดังนี้ IF, VVS1, VVS2, VS1, VS2, SI1, SI2  (อ้างอิงจากการจัดอันดับของสถาบันGIA) โดยขนาด, ปริมาณ, สี และ ตำแหน่งของมลทินในเพชรทำให้เพชรแต่ละเม็ดมีความสะอาดต่างกัน อีกทั้งความหนาแน่นของมลทินเอง มีส่วนทำให้สีเพชรขุ่นขึ้นเรื่อยๆ จากสีขาวใส จนสีขาวขุ่น จนสีเทาและสีดำในที่สุด(ดูรวมๆเหมือนมีพริกไทยข้างในจึงเป็นที่มาของชื่อ)  สาวๆอย่าพึ่งดูแคลนมลทินเหล่านี้นะค่ะ เพราะมลทินเหล่านี้ทำให้เกิดความแปลกตา บอกเล่าเรื่องราวการกำเนิดเพชรแต่ละเม็ด และเป็นตำหนิที่ธรรมชาติจงใจมอบให้อย่างแท้จริง จนเกิดเป็นความสมบูรณ์แบบในไม่สมบูรณ์แบบค่ะ ดีไซเนอร์หลายคนจึงให้ความคิดเห็นว่าตำหนิและมลทินเหล่านี้คือเสน่ห์ของเพชรแต่ละเม็ดค่ะ  อย่าลืมนะคะว่าไม่มีเพชรเม็ดใดๆในโลกนี้เหมือนกัน สาวๆคนไหนเล็งเห็นเรื่องราวเหล่านี้น่าสนใจ เราอยากให้เก็บเพชรขุ่นๆเหล่านี้ไว้พิจารณาเป็นแหวนหมั้นดูนะคะ น่าจะเข้ากับดีไซน์เท่ๆได้อย่างดีเลยค่ะ
  4. Step Cut Diamonds (อัญมณีที่เจียเป็นชั้น) เพชรเหลี่ยมมรกต(Emerald Step Cut)จัดว่าเป็นหนึ่งในเหลี่ยมเพชรที่เก่าแก่ที่สุด และความเก่าแก่นี่เองที่สามารถนำพาความคลาสสิกผ่านกาลเวลามาจนถึงปัจจุบันได้ แต่น่าเสียดายที่หลายๆคนมักมองข้ามเพชรสเต็ปคัท อาจเป็นเพราะรูปทรงไม่คุ้นตา หาซื้อถูกใจยาก หรือ ประกายเพชรไม่โดนใจสาวๆ  แต่ความเป็นตัวของเพชรสเต็ปคัทเอง เสน่ห์อยู่ที่รูปทรงเรียบและเข้าใจง่าย ดีไซเนอร์สมัยใหม่หลายคนมีความคิดที่จะนำเพชรสเต็ปคัทมารื้อฟื้นความนิยมใหม่ โดยที่ไม่ทิ้งเสน่ห์ดั้งเดิมของเพชรสเต็ปคัท และยังคงรักษาความคลาสสิกไว้ วิธีง่ายๆคือการนำเพชรสเต็ปคัทมาลองวางตามแนวขวาง แทนที่จะเป็นแนวตั้งแบบร่วมสมัย  การวางเพชรในแนวขวางอาจจะขัดสายตาและสามัญสำนึกหลายคน แต่การได้ลองทำอะไรใหม่ๆในวิธีใหม่ๆเป็นสัญชาตญาณของดีไซเนอร์อยู่แล้วค่ะ อีกทั้งยังได้แหวนหมั้นที่ดูเก๋ไม่เหมือนใครด้วย  นอกจากเพชรเหลี่ยมมรกตแล้ว ยังมีเพชรผืนผ้า(Baguette Step Cut) และเพชรคางหมู(Tapered Step Cut)อีกนะคะ จะวางเพชรในแนวขวาง หรือจะลองนำเพชรสเต็ปคัทเหล่านี้ มาจัดเรียงตามขนาดเล็ก-ใหญ่ หรือประกอบเป็นรูปร่างแปลกตา ก็ตามแต่ความคิดสร้างสรรค์ของเจ้าสาวแต่ละคนเลยค่ะ
  5. Intricate Gemstones Halo (อัญมณีที่สลับซับซ้อนรัศมี ) นอกจากดีไซน์แหวนหมั้นเพชรแบบเม็ดเดี่ยว(Solitaire Engagement Ring)สุดคลาสสิกแล้ว เจ้าสาวบางคนชอบให้เพชรเม็ดกลางของตนถูกล้อมอีกชั้นนึง เพื่อขับเน้นความโดดเด่นให้กับเพชรเม็ดกลาง และเสริมขนาด-หลอกตาให้เพชรเม็ดกลางดูใหญ่ขึ้น โดยดีไซเนอร์มีแนวความคิดที่จะนำศิลปะสไตล์ Art Deco ที่มุ่งเน้นการใช้ลวดลายเรียบง่าย และมีรูปแบบที่วิจิตร มาควบรวมกับการออกแบบเครื่องประดับเพื่อเพิ่มจุดขายและดึงดูดผู้สวมใส่ อีกทั้งเป็นการนำศิลปะที่เคยเฟื่องฟูในยุค 1920 มาปรับ-ประยุกต์ใช้ให้เข้ากับความต้องการของเจ้าสาวสายอาร์ตสมัยใหม่หลายๆคน  ทั้งนี้การออกแบบการล้อมเพชรเม็ดกลางมีหลายแบบเช่นกันค่ะ ไม่ว่าจะการฝังแบบหนามเตย(Prong Setting) และ การฝังแบบสอด(Channel Setting) หรือ เจ้าสาวคนไหนอยากใช้พลอยสีสวยๆมาล้อมเพชรเม็ดกลาง ให้แลดูสวยงามคล้ายกลุ่มดาวระยิบระยับบนท้องฟ้าก็ลองดูได้เลยค่ะ  

Post a Comment